เซรามิกที่ต้องเผาเคลือบมีอะไรบ้าง เซรามิกที่ไม่ต้องเผาเคลือบ (glaze firing) คืออะไร?,การเผาเคลือบเซรามิก,การเผาเคลือบคือ,ผลิตภัณฑ์ได้ได้จากการเผาเคลือบ,เซรามิกที่ต้องเผาเคลือบมีอะไรบ้าง,วิธีเคลือบดินเผา,การเผารากุ,เซรามิกที่ไม่ต้องเผาเคลือบ,การเคลือบเครื่องปั้นดินเผา,การเผาเคลือบคือ,เคลือบขี้เถ้า
การเผาเคลือบ glaze firing ขั้นตอนแรกในการเผาเครื่องปั้นดินเผา การเผาเคลือบเซรามิก คือการเผาไฟเมื่อดินเหนียวกลายเป็นเครื่องเซรามิก หลังจากจุดไฟแล้ว น้ำยาเคลือบจะถูกนำไปใช้กับหม้อและปล่อยให้แห้ง การเผาครั้งที่สองคือการเผาเคลือบ ซึ่งในระหว่างนั้นเคลือบจะละลายเกิดเป็นชั้นเคลือบคล้ายแก้วบนเครื่องปั้นดินเผา
การเผาเคลือบ glaze firing ดังนั้นการเผาเคลือบจึงเป็นการเผาครั้งที่สองที่เครื่องปั้นดินเผาเกิดขึ้น ต่อจากไฟแบบบิสค์ ในระหว่างการเคลือบไฟ สารเคลือบและดินเหนียวจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ลองมาดูกระบวนการนี้อย่างละเอียดยิ่งขึ้น เพื่อให้ได้คำตอบที่สมบูรณ์สำหรับคำถามที่ว่าการเคลือบคืออะไร
 |
| การเผาเคลือบ glaze firing |
การเผาดิบ โดยปกติแล้วการเคลือบจะใช้กับหม้อที่เผาแบบบิสค์ Bisque อุณหภูมิการเผาเครื่องปั้นดินเผา หรือที่เรียกว่า bisque ware หรือ biscuit ware เป็นดินเหนียวที่ถูกเผาที่ประมาณ 1832F (1000C) การเผาแบบบิสค์จะเปลี่ยนดินดิบให้กลายเป็นเครื่องปั้นดินเผาเซรามิก และดินที่ผ่านการเผาแบบบิสค์ก็ยังมีรูพรุนอยู่มาก
การเผาดิบคือ ก่อนที่มันจะถูกเผาในเตาเผา เคลือบเครื่องปั้นดินเผาจะถูกนำไปใช้ในรูปของเหลวกับเครื่องปั้นดินเผา สามารถนำไปใช้ได้หลายวิธี และวิธีเคลือบเครื่องปั้นดินเผาของคุณก็เป็นเรื่องของความชอบส่วนตัว
เมื่อทาเคลือบ น้ำจากเคลือบจะถูกดึงออกจากของเหลวโดยบิสกิตที่มีรูพรุน ดังนั้นการเคลือบจึงแห้งเร็วมาก ทำให้วัสดุเคลือบเคลือบแห้งเป็นผงบนพื้นผิวเครื่องปั้นดินเผา
โดยปกติแล้วจะทาเคลือบ 2 หรือ 3 ชั้นเพื่อสร้างความหนาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม จำนวนชั้นเคลือบที่ใช้ขึ้นอยู่กับวิธีการเคลือบ โดยปกติจะใช้เลเยอร์เพิ่มเติมเมื่อแปรงเคลือบบนหม้อ
เมื่อเคลือบแห้งบนหม้อแล้ว หม้อก็พร้อมสำหรับการเคลือบ เพื่อทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเคลือบเมื่อถูกไล่ออก เราจำเป็นต้องรู้ว่าเคลือบทำมาจากอะไร มาดูกันดีกว่าว่าตอนนี้ เซรามิกที่ต้องเผาเคลือบมีอะไรบ้าง
วิธีหลักในการเคลือบเงาบนเครื่องปั้นดินเผาคือ การเผาเคลือบ glaze firing
1.ทาสีบนภาชนะ
2.จุ่มเครื่องปั้นดินเผาลงในถังเคลือบ
3.เทเคลือบบนหม้อ ผลิตภัณฑ์ได้ได้จากการเผาเคลือบ ในเตาเผาเซรามิก
4.พ่นเคลือบลงบนเครื่องปั้นดินเผา
การเผาเคลือบคืออะไร การเผาเคลือบ glaze firing
เมื่อใช้เคลือบ น้ำจากการเคลือบจะถูกดูดออกจากของเหลวโดยน้ำยาเคลือบจากที่มีรูพรุน ดังนั้นเคลือบจะแห้งเร็วมาก ทำให้วัสดุเคลือบแห้งเป็นผงบนพื้นผิวเครื่องปั้นดินเผา โดยปกติเคลือบ 2 หรือ 3 ชั้นเพื่อสร้างความหนาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม จำนวนชั้นเคลือบที่ใช้ขึ้นอยู่กับวิธีการเคลือบ โดยปกติจะมีการทาชั้นเพิ่มเติมเมื่อแปรงเคลือบบนหม้อ ,เมื่อเคลือบแห้งบนหม้อ หม้อก็พร้อมสำหรับการเผาเคลือบ เพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับการเคลือบเมื่อถูกไล่ออก เราต้องรู้ว่าสารเคลือบทำมาจากอะไร
เคลือบทำมาจากอะไร การเผาเคลือบ glaze firing
เครื่องเคลือบดินเผาทำจากสามส่วนผสมหลัก
1.ซิลิกา
2.อลูมินา
3.ฟลักซ์
เหล่านี้เป็นส่วนผสมพื้นฐานของเคลือบ สามารถเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ เพื่อปรับเมนูเคลือบได้ และมีการเติมสารแต่งสีเพื่อส่งผลต่อรูปลักษณ์ของผิวเคลือบ ต่อไปนี้คือภาพรวมคร่าวๆ ของสิ่งที่ส่วนผสมทั้งสามนี้ทำ
1.ซิลิกา
ซิลิกาหรือที่เรียกว่าหินเหล็กไฟและควอตซ์เป็นส่วนประกอบหลักในการขึ้นรูปแก้วในการเคลือบ เป็นซิลิกาเคลือบที่สร้างแก้วเหลวในระหว่างการเผาซึ่งจะแข็งตัวเมื่อเครื่องปั้นดินเผาเย็นลง นี่คือสิ่งที่ทำให้เกิดพื้นผิวมันวาวเหมือนแก้วบนหม้อเคลือบ
การเผาเคลือบคืออะไร
2.อลูมินา
อลูมินาช่วยเพิ่มความหนืดของสารเคลือบและทำให้มีเนื้อและสารบางอย่าง ถ้าเคลือบไม่มีอลูมินา มันจะตกจากพื้นผิวเครื่องปั้นดินเผาเมื่อทา อลูมินาช่วยให้เคลือบออกเป็นกลุ่มและยึดเข้าที่เมื่อนำไปใช้กับหม้อ
3.ฟลักซ์
ฟลักซ์ช่วยควบคุมจุดหลอมเหลวของสารเคลือบเมื่อถูกเผาใน เตาเผาเซรามิก ซิลิกามีจุดหลอมเหลวสูง 3110F (1710C) สูงเกินกว่าจะนำไปเผาเครื่องปั้นดินเผาได้ ฟลักซ์ใช้เพื่อลดจุดที่ซิลิกาละลายและก่อตัวเป็นแก้ว
อัตราส่วนของส่วนผสมเหล่านี้ และวัสดุเพิ่มเติมอื่นๆ ที่ใช้จะส่งผลต่อลักษณะการทำงานของสารเคลือบเมื่อเผา นอกจากนี้ยังจะส่งผลต่ออุณหภูมิที่เคลือบละลาย
อุณหภูมิการเผาเคลือบที่แตกต่างกัน วิธีเคลือบดินเผา การเผาเคลือบ glaze firing
โดยทั่วไปแล้ว ดินเหนียวสำหรับเครื่องปั้นดินเผามีสามประเภท ได้แก่ เครื่องปั้นดินเผา เครื่องเคลือบดินเผา เครื่องลายคราม ดินเหนียวประเภทต่างๆ เหล่านี้มีคุณสมบัติต่างกันและถูกเผาที่อุณหภูมิต่างกัน เครื่องปั้นดินเผาถูกเผาที่อุณหภูมิต่ำกว่าเครื่องปั้นดินเผา และพอร์ซเลนมักจะเผาที่อุณหภูมิสูงกว่าสโตนแวร์
สีเคลือบที่คุณใช้ต้องละลายที่อุณหภูมิเดียวกับที่คุณใช้เผาดินเหนียว ด้วยเหตุผลดังกล่าว สารเคลือบจึงมักถูกจัดประเภทเป็นไฟต่ำ ไฟกลาง หรือไฟสูง หมวดหมู่เหล่านี้หมายถึงช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการเผาแบบเคลือบขึ้นอยู่กับขอบเขตของชนิดของดินเหนียวและสารเคลือบที่คุณใช้ และนั่นคือสิ่งที่เราจะกล่าวถึงในหัวข้อถัดไป
เกิดอะไรขึ้นระหว่างการยิงเคลือบ การเผาเคลือบ glaze firing
ระหว่างที่เกิดเพลิงไหม้ทั้งดินเหนียวและเคลือบจะมีการเปลี่ยนแปลง ดินเหนียวเติบโตเต็มที่และเคลือบจะละลายไปที่พื้นผิวดินเหนียวและสร้างพันธะกับดินเหนียว ประเภทของพันธะที่เคลือบด้วยดินเหนียวขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่เตาเผาไปถึง
เครื่องปั้นดินเผา การเผาเคลือบ glaze firing
การเผาเคลือบ glaze firing ดินเผาเป็นดินเหนียวไฟต่ำ ซึ่งหมายความว่าจะเจริญเต็มที่ที่อุณหภูมิต่ำกว่า กล่าวกันว่าดินเหนียวจะเติบโตเต็มที่เมื่อมีความหนาแน่นและแข็งที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่นเดียวกับการเคลือบ ดินเหนียวยังมีวัสดุขึ้นรูปแก้ว เมื่อเผาดินเหนียว แก้วจะก่อตัวขึ้นในร่างกายของดินเหนียวและเติมเต็มรูพรุนระหว่างอนุภาคของดินเหนียว เมื่อเครื่องปั้นดินเผาเย็นลง แก้วจะกลายเป็นของแข็งและทำให้ดินเหนียวแข็งแรง ยิ่งดินเหนียวมีวัสดุที่เป็นแก้วมากเท่าใด เครื่องปั้นดินเผาที่ใช้ไฟก็จะยิ่งแข็งขึ้นเท่านั้น
การเผาเคลือบ glaze firing ดินเผาดินเผามีวัสดุขึ้นรูปแก้วในปริมาณเล็กน้อย ผลที่ได้คือ ดินเผาดินเผายังคงมีรูพรุนค่อนข้างมากเมื่อเผาแล้ว ความแข็งแรงส่วนใหญ่ของดินเผาที่ได้จากการเผาเกิดจากกระบวนการเผาผนึก นี่คือเมื่อพื้นผิวของอนุภาคดินเหนียวเกาะติดกันและอนุภาคดินเหนียวเคลื่อนเข้าใกล้กันมากขึ้น
การเผาเคลือบ glaze firing การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นมากมายในดินเผาดินเผาระหว่างที่เกิดเพลิงไหม้บิสค์ ส่งผลให้ดินเผาไม่จำเป็นต้องเผาด้วยอุณหภูมิที่สูงขึ้นในระหว่างการเผาเคลือบ ดินเผาเครื่องปั้นดินเผาได้ทำให้สุกเต็มที่ในช่วงที่เกิดเพลิงไหม้ จุดประสงค์หลักของการเผาดินเผาเครื่องปั้นดินเผาเคลือบคือการใช้เคลือบกับพื้นผิวของเครื่องปั้นดินเผา
สโตนแวร์เคลย์ การเผาเคลือบ glaze firing
ในทางตรงกันข้าม สโตนแวร์เคลย์มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญบางอย่างระหว่างการเผาเคลือบ เช่นเดียวกับดินเหนียว อนุภาคดินเหนียวจะเคลื่อนที่เข้าใกล้กันมากขึ้น นอกจากนี้พื้นผิวของอนุภาคดินเหนียวจะเกาะติดกัน
อย่างไรก็ตาม ดินสโตนแวร์มีวัสดุขึ้นรูปแก้วมากกว่าดินเผา ดังนั้นช่องว่างระหว่างอนุภาคดินเหนียวจึงเต็มไปด้วยแก้ว สิ่งนี้เรียกว่าการกลายเป็นแก้วและทำให้สโตนแวร์เคลย์ไม่มีรูพรุนและแข็งมาก
ความแตกต่างอื่น ๆ ระหว่างดินเผาและดินเหนียวสโตนแวร์คือประเภทของพันธะที่เกิดขึ้นระหว่างเคลือบและดินเหนียว ดินเผาดินเผาได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่ในการเผาแบบบิสค์ ดังนั้นเมื่อเคลือบแล้ว เคลือบจะละลายติดผิวเซรามิกของเครื่องปั้นดินเผา
ในทางตรงกันข้าม เมื่อเผาดินเหนียวสโตนแวร์ จะมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างการเคลือบและตัวเนื้อดินมากขึ้น พวกเขาผสมกันมากขึ้นและชั้นกลางระหว่างดินเหนียวและเคลือบ
ชั้นอินเตอร์เฟสกลางนี้เป็นส่วนผสมของดินเหนียวและเคลือบ สิ่งนี้ทำให้การยึดเกาะระหว่างดินเหนียวกับเคลือบดีขึ้น ซึ่งกลายเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ
แม้จะมีความแตกต่างระหว่างเครื่องเคลือบดินเผาและเครื่องเคลือบหิน เครื่องเคลือบทั้งสองประเภทจะละลายในการเผาเคลือบ ลองมาดูการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้นกับการเคลือบในขณะที่มันถูกไล่ออก
การเคลือบละลาย การเผาเคลือบ glaze firing
การเผาเคลือบ glaze firing เช่นเดียวกับดินเหนียว สารเคลือบก็ต้องผ่านกระบวนการเผาผนึกเช่นกัน นี่เป็นขั้นตอนแรกในการเผาเคลือบ ระหว่างขั้นตอนการเผา พื้นผิวของอนุภาคเคลือบจะร้อนขึ้นและนิ่มลง ในขั้นตอนนี้ วัสดุที่ขึ้นรูปแก้วในเคลือบยังไม่เริ่มละลาย อย่างไรก็ตาม อนุภาคเคลือบได้เริ่มเกาะติดกัน
การเผาเคลือบ glaze firing สารเคลือบซินเทอร์ได้สูญเสียคุณภาพที่เป็นเกล็ดแป้งเมื่อแห้งครั้งแรก แต่ยังไม่ร้อนพอที่จะละลายและก่อตัวเป็นพื้นผิวมันวาว (ที่มา)
การเผาเคลือบ glaze firing เมื่ออุณหภูมิในเตาเผาสูงขึ้น สารเคลือบจะเริ่มละลายและหลอมรวมกัน โครงสร้างของผลึกในวัสดุเคลือบเริ่มเปลี่ยนแปลงและเคลือบเริ่มหลอมเหลว
การเผาเคลือบ glaze firing เมื่อเตาเผาเริ่มถึงอุณหภูมิเป้าหมาย น้ำเคลือบจะเริ่มเดือด ณ จุดนี้ในกระบวนการเผา อนุภาคเคลือบจะหลอมรวมเป็นของเหลวและเคลือบจะเกิดฟอง
การเผาเคลือบ glaze firing ในระหว่างขั้นตอนนี้ สารเคลือบจะมีการเปลี่ยนแปลงทางเคมีและโมเลกุล และก๊าซจะถูกปล่อยออกมา เมื่อก๊าซหลุดออกไปแล้ว กระบวนการเกิดฟองจะสงบลงและพื้นผิวของเคลือบจะเรียบขึ้น
การเผาเคลือบ หากการเผาเคลือบสิ้นสุดเร็วเกินไป ก๊าซที่ไม่มีโอกาสหลบหนีอาจติดอยู่ในเคลือบได้ อาจทำให้เคลือบขุ่นหรือพองได้ ช่างปั้นหม้อบางครั้งจะใช้การแช่หรือพักไว้ที่ปลายไฟเคลือบ
การเผาเคลือบ ในระหว่างการแช่ เตาเผาจะถูกเก็บไว้ที่อุณหภูมิเป้าหมายเป็นระยะเวลาสั้นๆ โดยปกติจะใช้เวลาไม่กี่นาที บางครั้งก็นานกว่านั้น การแช่ให้เวลาสำหรับก๊าซทั้งหมดที่ต้องหลบหนีเพื่อให้ออกจากเคลือบ
การเผาเคลือบ หลังจากกระบวนการนี้เสร็จสิ้น เตาเผาจะปล่อยให้เย็นลง เมื่อเคลือบเย็นลงจะก่อตัวเป็นพื้นผิวแข็งคล้ายแก้วบนเครื่องปั้นดินเผา
วิธีการโหลดชิ้นงานสำหรับการเผาเคลือบ การเผาเคลือบ glaze firing
ช่างปั้นควรวางแผนโหลดชิ้นงานที่มีการเคลือบสีอ่อนก่อน และควรมีผ้าสำหรับเช็ดมือโดยเฉพาะหลังจากหยิบเคลือบสีเข้ม
การเผาเคลือบ glaze firing ก่อนโหลดชิ้นงาน อย่าลืมตรวจสอบว่าชั้นวางเตาเผาล้างสารเคลือบจากรอบการยิงครั้งล่าสุดหรือไม่ เนื่องจากหากมีคราบเคลือบหลงเหลืออยู่บนชั้นวาง จะทำให้การเคลือบของชิ้นงานใหม่เลอะหรือทำให้ชั้นวางเตาเผาเสียหายได้ หลังจากนั้นทาสีชั้นวางด้วย Kiln Wash ก่อนวางชิ้นใหม่บนชั้นวาง คุณสามารถทำความสะอาดเคลือบได้โดยการสกัดด้วยเครื่องมือหรือตะไบด้วยหินลับมีดและผงสำหรับอุดรู ปรับพื้นผิวด้วยการล้างเตาเผา
ในการโหลดเตาเผา ให้ตั้งขาเตาเป็นรูปสามเหลี่ยม 2 จุดที่มุมซ้าย-ขวา และ 1 จุดที่ตรงกลางตรงข้ามกัน และตรวจสอบให้แน่ใจว่าชั้นวางแผ่นเผาอยู่ห่างจากพื้นเตาเผา 1 นิ้ว เพื่อให้ความร้อนและอากาศเคลื่อนที่ได้ทั่วถึง เตาเผา เมื่อวางชิ้นงานหรือชิ้นงาน ควรระวังเทอร์โมคัปเปิลหักหรือแตก
สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าชิ้นงานเคลือบไม่สามารถวางซ้อนกันและสัมผัสกันได้ นอกจากนี้ต้องมีช่องว่างระหว่างชิ้นงานแต่ละชิ้น การจัดวางชิ้นงานประเภทนี้ต้องการพื้นที่มากกว่าการโหลดชิ้นงานดิบ และต้องแน่ใจว่าได้เช็ดมือทุกครั้งที่สัมผัสชิ้นงานเพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนของสารเคลือบระหว่างชิ้นงาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การเผาเคลือบที่แม่นยำ ควรวางกรวยสำหรับตรวจสอบความร้อนภายในห้องยิงในตำแหน่งที่เหมาะสมซึ่งอยู่ประมาณกึ่งกลางของความสูงของเตาเผา หากเป็นไปได้ ให้วางมากกว่า 2 จุดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น
การเผาเคลือบ glaze firing นอกจากนี้ ควรสวมถุงมือเมื่อทำความสะอาดชั้นวางเตาเผาก่อนใช้งาน เพื่อป้องกันเศษต่างๆ ตกลงไปที่ชิ้นงานด้านล่าง เมื่อชั้นวางด้านล่างเต็ม ให้วางชั้นวางอีกชั้นไว้ด้านบนอย่างระมัดระวัง ห้ามกดหรือกระแทกก้อนอิฐบนขาเตาเผาที่มีขนาดเท่ากันในตำแหน่งเดียวกับขาเตาด้านล่าง เติมชั้นวางนี้ในลักษณะเดียวกับชั้นวางด้านล่าง โดยเว้นช่องว่าง 1 นิ้วระหว่างชิ้นส่วนและฝาเตา จากนั้นค่อยๆ ปิดฝาเตาเผา และระวังเพราะคุณคงไม่อยากให้ฝุ่นและก้อนอิฐตกลงบนชิ้นงาน
การเผาเคลือบ glaze firing เมื่อเคลื่อนย้ายชิ้นงานออกจากเตาเผา อาจได้ยินเสียง "ปิง" เป็นครั้งคราว ซึ่งอาจเกิดจากการเคลือบแก้วที่ร้อนกระทบกับอากาศที่เย็นกว่ารอบๆ ชิ้นงาน อย่าลืมบันทึกการเผาในบันทึกและตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าการโหลดถูกบันทึกไว้ในบันทึกตั้งแต่เริ่มต้นก่อนที่จะปิดเตาเผาจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น